ยุคทองของหงส์แดง แรงกว่านี้ต้องรถส่งแกง แล้วหละ!
ยุคทองของหงส์แดง
หากพูดถึงทีมในพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ ทีมแรกเลยที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคงจะเป็นทีมหัวตารางอย่างลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นทีมที่ออกตัวได้อย่างร้อนแรง หากพูดถึงฤดูกาลที่แล้วหงส์แดงก็เกือบทำสำเร็จ หากแต่แพ้คะแนนให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ไปแบบวัดกันในแมทต์สุดท้ายเลยทีเดียว แต่พอมาฤดูกาลนี้ หงส์แดงเปิดตัวอย่างร้อนแรง เก็บสถิติอันสวยหรู ด้วยการไม่แพ้ใครเลยในลีค เก็บ 28 แต้มจาก 10 นัด
ด้วยสถิติอันร้อนแรงขนาดนี้ ต้องกล่าวชมหัวเรือใหญ่อย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของลิเวอร์พูลที่สามารถนำลูกทีคว้าชัยได้อย่างต่อเนื่อง จนขึ้นเป็นอับดับ 1 ของพรีเมียร์ลีกในขณะนี้ อาจจะเพราะมีประสบการณ์จากฤดูกาลที่แล้ว ที่ในตอนแรกลิเวอร์พูลมีคะแนนนำแมนซิตี้อยู่ถึง 10 แต้ม แต่สุดท้ายก็กลับโดนแมนซิตี้กระชากแชมป์ที่ถือว่าอยู่ในมือไปเลยทีเดียว
พอมาในฤดูกาลนี้ คล็อปป์ จึงเน้นในทุกเกมส์ ให้ลูกทีมพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด และในขณะที่ลิเวอร์พูลยิ่งเล่นก็ยิ่งดี แต่ทีมอื่นๆยังไม่เข้าฟอร์ม สะดุดกันไปหมด ตั้งแต่แมนซิตี้ที่นักเตะเจ็บกันเยอะ เชลซีและอาเซน่อลที่ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ และแมนยูที่ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มกลับมาได้ ทำให้ลิเวอร์พูลในตอนนี้จะเรียกว่าไร้ที่ติ ไร้คู่แข่งก็ว่าได้ อีกทั้งนักเตะเองก็สามารถทำหน้าที่ขอตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้กระทั่งตัวสำรอง
นักเตะลิเวอร์พูลมีใจในการเล่นทุกคนแม้แต่เกมส์ที่ควรเสมอหรือแพ้ คล็อปป์ก็สามารถแก้เกมส์เรียกกำลังใจให้กับนักเตะกลับมาได้ บางเกมส์หงส์แดงก็ไม่สามารถเดินหน้าถล่มคู่แข่งได้แต่พวกเขาสามารถทำประตูได้เมื่อพวกเขามีโอกาส ไม่ได้ใช้โอกาสฟุ่มเฟือย หรือบางเกมส์ก็มายิ่งในช่วงท้ายเกมส์จากที่ตามหรือเสมออยู่ก็ทำให้กลับมาชนะได้นั่นเอง มีหลายๆคนบอกว่า คุณสมบัติของทีมที่จะเป็นแชมป์ ก็คือ จะต้องชนะได้ในเกมส์ที่ควรเสมอ และจะต้องเสมอให้ได้ ในเกมส์ที่คุณควรแพ้ ตอนนี้จะบอกว่าลิเวอร์พูลคือทีมที่มีคุณสมบัตินั้นก็คงไม่ผิด
เส้นทางการคุมทีมของคล็อปป์ ที่ผ่านมาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือมีพรมปูไว้ให้เค้าเดิน เค้าเจอกับความผิดหวังบ่อย แต่เค้าไม่เคยนั่งจมอยู่กับความผิดหวังนั้น เค้าเลือกที่จะเรียนรู้และก้าวเดินต่อไป เค้าเคยพาหงส์แดงเข้าชิงแชมป์ UCL มา 2 ครั้ง ซึ่งเค้าต้องผิดหวังทั้ง 2 ครั้ง แต่เค้าเลือกที่จะเรียนรู้และแก้ไขในสิ่งที่ทีมเค้าขาดหรือพลาดไป จนในที่สุด เจอร์เก้น คล็อปป์ก็สามารถพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ได้ในครั้งที่ 3 ถึงแม้ก่อนหน้านั้นเพียงเล็กน้อย เค้าเพิ่งผิดหวังกับการพลาดแชมป์พรีเมียร์ลีก และได้แค่รองแชมป์ แต่เค้ากับไม่ได้เอามันมาใส่ใจ และเลือกที่จะมองข้างหน้า
ดังนั้นเจอร์เก้น คล็อปป์เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้จัดการทีมที่เราสามารถมองเห็นได้เลยว่า จะต้องไม่จมกับความผิดพลาดหรือผิดหวังในอดีต และไม่หลงระเริงกับความสำเร็จที่ได้มา แต่ให้พยายามทำให้ดีที่สุดในวันข้างหน้านั่นเอง
อาจจะยังเหลืออีกหลายนัดสำหรับเกมส์พรีเมียร์ลีก อาจจะยังพูดไม่ได้ว่าลิเวอร์พูลน่าจะได้แชมป์ แต่หากจะกล่าวว่าในช่วงเวลานี้ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นหงส์แดง “ลิเวอร์พูล”