บอกลา “ปอเซ็ตติโน่” เข้าชิงยูฟ่ายังไม่รอด
บอกลา “ปอเซ็ตติโน่” เข้าชิงยูฟ่ายังไม่รอด
ย้อนไปเมื่อ 5 เดือนก่อน คงไม่มีคนบ้าที่ไหนจะบอกว่าสเปอร์จะทำการปลดกุนซือประจำทีมออก ก็เมื่อ ปอเซ็ตติโน่
เพิ่งนำลูกทีมของเขา เดินทางไปยังกรุงมาดริด ประเทศสเปน เพื่อทำศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ ในรอบชิงชนะเลิศ กับลิเวอร์พูลอยู่เลย
แม้จะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่ไม่สามารถคว้าโทรฟีย์มาครองได้ เนื่องจากโอกาสอย่างนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ แต่ก็ต้องบอกว่า ต้นฤดูกาล
คงไม่มีใครคาดคิดเช่นกันว่าทีมอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จะหลุดทะลุมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้แบบนี้
และแล้ว วันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2019 แฟนบอลอย่างเราก็รู้ว่า เหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ไม่มีอยู่จริงบนโลกลูกหนัง
เมื่อบอร์ดบริหารของ ‘ไก่เดือยทอง’ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ตัดสอนใจประกาศเด้งฟ้าผ่า ไล่กุนซือวัย 47 ปีอย่าง เมาริซิโอ
ปอร์เซตติโน่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่าเซ่นฟอร์มห่วยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ลากยาวจนมาถึงปัจจุบัน จนจำเป็นต้องปลดในที่สุด
ในโลกลูกหนังสมัยใหม่ เรื่องปลดผู้จัดการทีมไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่ครั้งนี้มันต่างกับการปลดอื่นๆตรงที่ว่า
ครั้งนี้น่าจะเป็นการปลดที่มีเสียงค่อนข้างแตกมากที่สุดครั้งนึงก็ว่าได้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วย แม้แต่ทีมคู่แข่งในลีก
ยังรู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์นี้
“เมาริซิโอ ปอเชตติโน่ ถูกไล่ออก ทั้งที่เขาช่วยนำสโมสรชกข้ามรุ่นมาเป็นเวลาหลายปี” แกรี่ ลิเนเกอร์ กล่าว
“ขอให้โชคดีกับการตามหาคนที่ดีกว่า ซึ่งมันจะไม่เกิดขึ้น”
ขณะที่ เจอร์เมน จีนาส อดีตมิดฟิลด์ทีมไก่เดือยทอง รู้สึกว่า บอร์ดบริหารฯควรจะให้การหนุนหลังกุนซือ
ชาวอาร์เจนไตน์มากกว่า “ควรจะหนุนหลังเขาไม่ใช่ไปไล่เขาออก เสียใจมากกับเมาริซิโอ”
ทางด้าน เจมี่ คาร์ราเกอร์ก็ออกมาสับการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “คนอาจจะพูดว่าเขาไม่เคยได้แชมป์อะไร แต่เมื่อ
พิจารณาจากสิ่งที่เขามี มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขา แน่นอนว่าเขาสมควรที่จะได้อยู่จนจบฤดูกาล”
ย้อนกลับไปช่วงแรก ที่พอชเข้ามาคุมทีม สเปอร์ยังเป็นแค่ทีมท็อป 6 ที่ยังไม่ท็อปดีด้วยซ้ำ แต่ด้วยฝีมืออันฉกาจ
ฉกรรจ์ของกุนซือชาวอาเจนไตน์คนนี้ กลับพาสเปอร์ขึ้นมาเป็นทีมท็อปโฟร์ บางปียังมีลุ้นแชมป์ลีกอีกกระทง แถมด้วย
ข้อจำกัดของ ดาเนียล เลวี่ ประธานสโมสร ที่ลงทุนค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับทีมลุ้นแชมป์ทีมอื่นๆ พ่วงด้วยการเข้าชิง
ชนะเลิศยูฟ่าในรอบไม่รู้กี่ปี ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร กลับถูกไล่ออก ทั้งๆฤดูกาลเพิ่งผ่านพ้นไปเพียง 12 เกมเท่านั้น
จากนี้ ก็ได้แต่ขออวยพร ให้ เมาริซิโอ ปอเซตติโน่ ได้ไปอยู่ถูกที่ถูกทาง ถ้าคนเก่งจริง ฆ่ายังไงก็ไม่ตายอยู่แล้ว
“เมื่อฟุตบอลวัดกันที่ประตู ไม่ใช่รูปเกมฉันท์ใด ผลงานก็ต้องวัดกันที่ถ้วยรางวัล ไม่ใช่ทรงบอลฉันท์นั้น”
-ลาก่อน เมาริโอ ปอเซตติโน่-
