สิงห์บูล ของแลมพาร์ด จะสามารถพาทีมยกถ้วยได้หรือไม่?

0

 

สิงห์บูล ของแลมพาร์ด

ช่วงเวลา 13 ปีในฐานะนักเตะทีมเชลซีของแฟรงค์ แลมพาร์ด เค้านั้นถือเป็นนักเตะคนนึงที่แฟนบอลต่างรักและสนับสนุนมาตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งในสโมสร แลมพาร์ดอาจจะเคยได้รับรางวัลมากมายกับสโมสรเชลซีในฐานะนักเตะของสโมสร แต่ในตอนนี้เค้าต้องก้าวเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซีด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปี เมื่อ มิ.ย. กลางปีที่ผ่านมา ทำให้เค้าต้องมารับบทบาทใหม่ในที่เดิมที่เค้าคุ้นเคยมาตลอด ซึ่งมันก็อาจจะเป็นได้ทั้งแรงผลักดัน และแรงกดดันไปในเวลาเดียวกัน

 

อย่างที่บอกไปในข้างต้น แลมพาร์ดเริ่มก้าวเข้ามาคุมทีมอย่างเต็มตัวเมื่อเดือน มิ.ย. กลางปีที่ผ่านมา โดยทางสโมสรได้ให้สัญญาในการคุมทีมกับเค้าไว้ 3 ปี แลมพาร์ดเริ่มต้นฤดูกาลนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เพราะพลาดท่าแพ้แมนยูไปถึง 4-0 และแพ้จุดโทษลิเวอร์พูลในนัดชิดยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ และหลังจากนั้นผลงานของสิงห์บูลก็ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่ในสายตาแฟนบอลทีมอื่น แต่สำหรับแฟนบอลเชลซีเองเค้ายังคงเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวผู้จัดการทีมที่เป็นนักเตะระดับตำนานของสโมสร ว่ากุนซือคนใหม่ของพวกเค้าจะสามารถพาทีมที่พวกเค้ารักกลับมาประสบความสำเร็จได้แน่นอน เพราะในเวลานี้คงไม่มีใครที่จะรู้ใจ และเข้าใจถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ได้ดีเท่าผู้จัดการทีมคนนี้อีกแล้ว

 

แต่ทางด้านผู้จัดการทีมคนใหม่คนนี้ก็ได้กล่าวกับสื่อว่า “เค้ามีความมั่นใจว่าเค้าสามารถจะพาเชลซีจบในระดับท็อฟโฟร์ได้แน่ๆ ในฤดูกาลนี้ ถึงแม้ว่าเชลซีนั้นจะห่างกับจ่าฝูงลิเวอร์พูลถึง 8 แต้ม แต่เค้าก็ห่างกับแมนซิตี้แชมป์ฤดูกาลที่แล้วเพียง 2 แต้มเท่านั้นเอง และในช่วงนี้ทีมอื่นๆก็ค่อนข้างแย่เหมือนกัน เชลซีจึงควรใช้โอกาสนี้ในการรีบเก็บแต้มเพื่อลุ้นให้สามารถขยับอันดับให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”

 

ตอนนี้ผลงานของสิงห์บูลถือว่ากำลังเริ่มเข้าที่เข้าทาง มีนักเตะที่มีฝืมือดี เล่นดีมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะพวกดาวรุ่ง แลมพาร์ดเองถือว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ชอบให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่ ชอบให้โอกาสพวกดาวรุ่งลงเล่นอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้เองนักเตะดาวรุ่งจึงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะแสดงให้อดีตตำนาจของสโมสร และกุนซือคนปัจจุบันเห็นถึงศักยภาพของพวกเค้าเอง และแลมพาร์ดเองก็น่าจะมีความสามารถ มีจิตวิทยาในการพูดและดึงเอาความสามารถของดาวรุ่งในทีมออกมาได้เช่นกัน

 

โดยสรุปแล้วในฐานะนักเตะแลมพาร์ดถือว่าเป็นตำนานของสโมสรไปแล้ว แต่ในฐานะผู้จัดการทีมเค้าคงยังต้องการเวลาในการสะสมประสบการณ์และฝึกฝนฝีมือไปอีกสักพักใหญ่ๆ จึงจะสามารถเรียกว่าเป็นตำนานในฐานะผู้จัดการทีมในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์คนต่อไป ซึ่งแลมพาร์ดเองก็น่าจะทำได้แน่นอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may have missed