บรู๊ซเร้า “สาลิกาดง” เก็บชัยเหนือ “เรือใบสีฟ้า” ในเกมเอฟเอคัพ

0
สาลิกาดง

เกมสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เป็นเกมเอฟเอคัพ รอบควอเตอร์ไฟนัลที่แข่งนัดเดียวรู้เรื่อง โดยโปรแกรมของ สาลิกาดง นิวคาสเซิลคือเปิดบ้านสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ครับการมาเยือนของแมนซิตี้ (แชมป์เก่าเมื่อซีซั่นที่แล้ว)

นิวคาสเซิลสามารถเสมอกับทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ 10 เดือนก่อนหน้านั้น ทีมของสตีฟ บรู๊ซเอาชนะแมนซิตี้ได้ เป็นเกมแรกที่บรู๊ซคุมทีมด้วย นั่นหมายความว่าสาลิกาดงนิวคาสเซิลภายใต้การคุมทีมของสตีฟ บรู๊ซ ยังไม่เคยพ่ายแพ้ให้แมนซิตี้เลย

ซึ่งเกมนี้ทีมอันดับที่ 13 ของพรีเมียร์ลีก อย่างนิวคาสเซิลมีโปรแกรมเปิดสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค รับการมาเยือนของแมนซิตี้ ทีมรองจ่าฝูง ซึ่งเป็นบททดสอบที่สำคัญของทีม

บรู๊ซกล่าวว่า ความคิดของผมยังคงเดิมคือ เมื่อคุณเล่นกับทีมอย่างเรือใบสีฟ้า คุณต้องเล่นด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด

สาลิกาดง

นายใหญ่ สาลิกาดง กล่าวว่าทีมของเขายังไม่ปลอดภัย

นายใหญ่สาลิกาดงกล่าวว่าทีมของเขายังไม่ปลอดภัยต่อการดิ้นรนหนีการตกชั้นแม้ว่าจะมีแต้มห่างจากทีมโซนตกชั้น อยู่ 12 แต้มก็ตาม เกมล่าสุดคือพวกเขาเสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1

พวกเขามีนักเตะที่เก่งที่สุดในทีม หากว่าพวกเขาเล่นตามฟอร์มธรรมดายังเหนือกว่าพวกเราอยู่มากอยู่ดี  แต่อย่างไรก็ตามมันมันเป็นเกมเอฟเอคัพ ที่ทุกอย่างเป็นไปได้ และแมนซิตี้เป็นบททดสอบที่แท้จริงของทีมเรา เราต้องเล่นด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด

เราเคยทำได้ดีมาแล้วเมื่อเจอกับพวกเขาช่วงต้นฤดูกาล และผมหวังว่าสาลิกาดงนิวคาสเซิลจะทำได้ดีอีกครั้ง โดยทีมเล่นได้ดีหลังจากกลับมาจาก covid-19 คือเปิดบ้านชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 และเสมอแอสตัน วิลล่า 1-1  โดยสองเกมล่าสุดเราเก็บไป 4 แต้ม และหากรวมแล้ว 5 เกมล่าสุดเรายังไม่แพ้ใครเลยในทุกรายการแข่งขัน

เรือใบสีฟ้า

เกมที่จะแข่งกับแมนซิตี้ ผมคาดว่าเราต้องตั้งรับกันเป็นทีมและต้องไม่เสียประตูง่ายๆ โดยรวมแล้วผมพอใจกับภาพรวมการเล่นของทีมนะ

ทั้งนี้เรื่องการหนีตกชั้นทางด้านสตีฟ บรู๊ซเปิดเผยว่าเราต้องการอีกเพียง 6 แต้มเท่านั้นก็น่าจะเพียงพอต่อการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกแล้ว เพราะว่าเหลืออีกเพียง 7 เกมเท่านั้นจะปิดซีซั่น แต่ว่าโปรแกรมเอฟเอคัพในรอบควอเตอร์ไฟนัลของสาลิกาดงสุดโหดเมื่อต้องเปิดบ้านพบ แมนซิตี้ ทีมของเป๊ปยังต้องการล่าแชมป์จากทุกรายการที่ลงสนามแม้ว่าเกมล่าสุดจะเพิ่มพลาดท่าแพ้ต่อเชลซีมาและส่งผลให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกไปครองเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

ยังมีเนื้อหาเจาะข่าวฟุตบอลอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายในเว็บไซต์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may have missed