“กรานิต ชาก้า” ในวันที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
หลังจากถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่พบกับคริสตัลพาเลซ เมื่อฤดูกาล 2019-2020 สิ่งที่แฟนบอลหลายคนทั้งที่ชมเกมอยู่ในสนามและถ่ายทอดสดไม่คาดคิด ก็คือ กรานิต ชาก้า แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากเขาไม่พอใจที่แฟนบอลโห่ไล่และรู้สึกยินดีเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออก โดยทำท่าทางป้องหูไปให้แฟนบอลที่ก่นด่า รวมทั้งยังโยนเสื้อสโมสรทิ้งและสบถออกมาก่อนเดินเข้าอุโมงค์ไป ทุกคนที่เห็นภาพนี้ตาก็คิดไปในทิศทางเดียวกันว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เห็นกัปตันทีมเล่นให้กับสโมสร และมองว่าคงเป็นเรื่องยากที่แฟนบอลจะกลับมารักเขาเหมือนเดิม แต่ในวันนี้ฤดูกาลล่าสุดที่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรไปหลายๆอย่าง ชากาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และเสียงของแฟนบอลที่เคย โห่ไล่กลับกลายเป็นร้องเพลงเชียร์อื้ออึง
ชีวิตใหม่ของ กรานิต ชาก้า ที่กำลังโลดแล่นอย่างมีความสุข
อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นคนซื้อตัว กรานิต ชาก้ามาจากโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัคเมื่อฤดูกาล 2016-2017 และวางเป้าหมาย เจาะข่าวฟุตบอล ให้เขาเป็นตัวทำเกมและเล่นในลักษณะของมิดฟิลด์ Box to Box แต่จนแล้วจนรอด จนถึงฤดูกาลที่ผ่านมาเขาก็ยังไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ถูกมองว่า เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาที่เคยทำผลงานได้ดีเมื่อครั้งอยู่ในเวทีบุนเดสลีกา กรานิต ชาก้า รับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางตัวทำลายเกม ที่แฟนบอลอาจจะไม่พอใจและมองว่าเขาช้าจนเกินไป ไม่เหมาะสมกับการเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยิ่งอยู่ในยุคสมัยของอูไน เอเมรี่ ที่ตัวเขาเองได้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีม ท่ามกลางสายตาคัดค้านของแฟนบอลหลายๆคน ที่ถึงแม้ว่าตำแหน่งนี้จะเป็นการโหวตมาจากเพื่อนร่วมทีมทั้งหมดก็ตาม
อาจจะเป็นเพราะการที่ไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ตนเองคุ้นเคย เหมือนกับอยู่ในลีกเยอรมัน รวมทั้งการเล่นในระดับทีมชาติของสวิตเซอร์แลนด์ จึงทำให้ กรานิต ชาก้า ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้ และหลายคนก็ไม่ได้ชื่นชอบเขาเสียเลย การทำฟาล์วแบบโง่ๆ ที่เห็นอย่างบ่อยครั้ง หรือเป็นตัวที่ทำให้เกมช้า ที่หลายคนมองว่าเป็นตัวถ่วง มีการทวิตด่า comment ว่าในช่องทางต่างๆมากมาย จนฟางเส้นสุดท้ายเกิดขึ้น เมื่อชากามองว่า สิ่งที่แฟนบอลทำนั้นเกินไปเนื่องจากมีการพาดพิงไปถึงลูกเมียและครอบครัว
หลังจากการเข้ามาของ อาร์เตต้า ที่เมื่อไม่นานมานี้ กรานิต ชาก้า เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเกือบจะย้ายออกไปจากทีม แต่โค้ชชาวสเปน ขอเวลาให้เขาช่วยทีมอีก 6 เดือน และชาก้าก็ไม่ปฏิเสธ เนื่องจากเขายังมีความรักต่อทีมปืนใหญ่ และวันนี้ การที่เขาได้เล่นในตำแหน่งที่ตนเองต้องการ ก็เริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นตัวหลักที่ขาดไม่ได้ และเสียงเชียร์รอบสนาม ก็เปลี่ยนไปจากคำด่าเป็นคำให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
